บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ฟิลลิป จำกัด (“บริษัทฯ”, “เรา” หรือ “ของเรา”) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(ตามที่นิยามไว้ข้างล่างนี้)
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”, “นโยบายความเป็นส่วนตัว”) ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคล (ตามที่นิยามไว้ในข้อ 1 ข้างล่างนี้) ของลูกค้าบุคคลธรรมดาของบริษัทฯ ทั้งที่เป็นลูกค้าเป้าหมาย (ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต) ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต ตลอดจน พนักงาน บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น บุคคลผู้มีอำนาจ กรรมการ ผู้ติดต่อ ตัวแทน นายหน้า ผู้แนะนำการลงทุน ที่ปรึกษาทางการเงิน และบุคคลธรรมดาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของบริษัทฯ ทั้งที่เป็นลูกค้าเป้าหมาย (ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต) ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต
บุคคลธรรมดา (“ท่าน”, “ของท่าน”) ส่วนลูกค้าบุคคลธรรมดาและลูกค้านิติบุคคล(“ลูกค้า”) (หรืออาจเรียกรวมกันทั้งหมดว่า “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”)
นโยบายฉบับนี้จะอธิบายถึงวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ซึ่งใช้บังคับกับทั้งธุรกิจ เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) กิจกรรมและนิทรรศการ ช่องทางการติดต่อทางออนไลน์ โลเคชันอื่น ๆ (locations) และวิธีการใด ๆ ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่ซึ่งสามารถระบุถึงหรือทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลได้ ตามที่ระบุไว้ข้างล่างนี้ โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งที่บริษัทฯ ได้จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง อาทิเช่น ผ่านทาง ผู้แนะนำการลงทุน/เจ้าหน้าที่การตลาด ที่ปรึกษาทางการเงิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) ของบริษัทฯ หรือจากแหล่งอื่น ๆโดยอ้อม เช่น สื่อสังคมแพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ และผ่านบริษัทในเครือ ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานทางราชการ หรือบุคคลภายนอก (เช่น ผู้รับฝากทรัพย์สินที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับฝากทรัพย์สินช่วง ตัวแทน และนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์) ประเภทของข้อมูลที่เก็บรวบรวมขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ และบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจากบริษัทฯ
“ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทฯจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ลูกค้าบุคคลธรรมดา
ข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทฯจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ อายุ อาชีพ ตำแหน่งงาน เงินเดือน ที่ทำงาน ตำแหน่ง การศึกษา สัญชาติ วันเกิด สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เป็นต้น) ลายมือชื่อ การบันทึกเสียง การบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ รูปถ่าย การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด ทะเบียนบ้าน และข้อมูลประจำตัวอื่น ๆ
(2) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล และรหัสประจำตัวสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
(3) ข้อมูลบัญชีและข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีและประเภทของบัญชี สินทรัพย์หมุนเวียน รายได้และค่าใช้จ่าย ตลอดจนข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลการสมัครใช้บริการและผลิตภัณฑ์
(4) ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ประเภทของผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น ประวัติการซื้อขายและยอดคงเหลือ ประวัติการชำระเงินและการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ของท่าน แหล่งที่มาของเงินทุน ข้อมูลการซื้อขาย
(5) ข้อมูลทางเทคนิค เช่น เลขที่อยู่ไอพีหรืออินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP address) เว็บบีคอน (web beacon) ล็อก (Log) ไอดีอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นอุปกรณ์และประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ single sign-on (SSO) การเข้าสู่ระบบ (Login log) เวลาที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเพจของบริษัทฯ คุกกี้ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา (Time zone setting) และสถานที่ตั้ง ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม
(6) รายละเอียดข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อบัญชี (account identifiers) ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน รหัสประจำตัว (PIN ID code) สำหรับการซื้อขาย ความสนใจและความพึงพอใจ กิจกรรม เป้าหมายการลงทุน ความรู้และประสบการณ์การลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (risk tolerance)
(7) ข้อมูลการใช้งาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ
(8) ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับบริษัทฯ เช่น ข้อมูลที่ท่านได้ให้แก่บริษัทฯในสัญญา แบบฟอร์มหรือการสำรวจ หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมในเวลาที่ท่านได้เข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ การสัมมนา หรือกิจกรรมทางสังคมของบริษัทฯ
ลูกค้านิติบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทฯ จะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ อายุ รูปถ่าย ข้อมูลในประวัติส่วนบุคคล การศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับงาน (เช่น สถานะ หน้าที่ อาชีพ ตำแหน่งงาน บริษัทที่คุณทำงานให้ หรือเป็นพนักงาน หรือถือหุ้นอยู่) ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง) อัตราส่วนการถือหุ้น ลายมือชื่อ และข้อมูลประจำตัวอื่น ๆ
(2) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ประเทศ ที่อยู่อีเมล และข้อมูลอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
(3) ข้อมูลส่วนตัวที่สร้างขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของลูกค้ากับบริษัทฯ เช่น การเปิดบัญชี การบริหารจัดการ การดำเนินงาน การชำระเงิน การชำระบัญชี การประมวลผลและการรายงานในนามของลูกค้า ข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวอาจรวมถึงลายมือชื่อและหนังสือติดต่อกับบริษัทฯ
(4) ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับบริษัทฯ เช่น ข้อมูลที่ท่านได้ให้กับบริษัทฯ ในสัญญา แบบฟอร์มหรือการสำรวจ หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมในเวลาที่เข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ การสัมมนา หรือกิจกรรมทางสังคมของบริษัทฯ
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ที่บริษัทฯ จะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
(1) ข้อมูลชีวมาตร ได้แก่ ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ
(2) ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลสุขภาพอันเป็นภาวะบกพร่องทางสุขภาพซึ่งรวมถึงความพิการ
2. วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
2.1 วัตถุประสงค์ที่เราจำเป็นต้องได้รับความยินยอม
บริษัทฯ จะต้องอาศัยความความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อ
2.1.1 การติดต่อสื่อสารทางการตลาด การเสนอข้อเสนอพิเศษ เอกสารส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทในเครือและบริษัทย่อยของบริษัทฯ และบุคคลภายนอกซึ่งไม่สามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น
2.1.2 การเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือการเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลชีวมาตร ได้แก่ ระบบจดจำใบหน้า ,ลายนิ้วมือ ทั้งนี้เพื่อการเข้าถึงสถานที่/การสมัครใช้บริการ และการยืนยันและพิสูจน์ตัวบุคคล
(2) ข้อมูลสุขภาพ เช่น ภาวะบกพร่องทางสุขภาพและความพิการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการและการให้บริการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
2.1.3 การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศที่อาจจะไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอม
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของ ณ เวลาใดก็ได้ โดยช่องทางการติดต่อ Pamc.cu@phillip.co.th เพื่อถอนความยินยอม ซึ่งการถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนที่จะขอถอนความยินยอมนั้น
2.2 วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ อาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ
2.2.1 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญากับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
2.2.2 เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
2.2.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบุคคลภายนอก เพื่อให้เท่าเทียมและสอดคล้องกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
2.2.4 เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ
2.2.5 ประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
บริษัทฯ จะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (2.2.1) ถึง (2.2.5) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ลูกค้าบุคคลธรรมดา
(1) การติดต่อกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนที่จะเข้าทำสัญญากับบริษัท
(2) การประมวลผลคำขอเปิดบัญชี การรักษาสภาพของบัญชี และการดำเนินการที่เกี่ยวกับบัญชี รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การประมวลผลคำขอหรือการร้องขอบริการหรือผลิตภัณฑ์ การประมวลผลธุรกรรม การออกรายงานแสดงความเคลื่อนไหวของบัญชี (account statement) และการดำเนินการและการปิดบัญชีของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(3) การให้บริการ เช่น ผู้แนะนำการลงทุน/เจ้าหน้าที่การตลาด ที่ปรึกษาทางการเงิน การจัดการกองทุนรวม การจัดการกองทุนส่วนบุคคล ที่ปรึกษาการลงทุน การจัดการกองทุนตราสารอนุพันธ์ และการจัดการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการเหล่านี้
(4) การจัดหาผลิตภัณฑ์การลงทุน การเสนอทางเลือกให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนของบุคคลภายนอก) เป็นครั้งคราว และการจัดการใดๆที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์การลงทุนเหล่านี้
(5) การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และการบริหารจัดการบัญชีที่มีอยู่กับบริษัทฯ
(6) การป้องกันและให้การบริการอย่างเหมาะสมแก่ลูกค้าที่มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางสุขภาพและความพิการ ในการเข้าทำธุรกรรมบางประเภทด้วยตนเอง เพื่อวัตถุประสงค์ในการอำนวยความสะดวกและควบคุมความเสียหายใดๆ
(7) การดำเนินการตามคำสั่งหรือการตอบข้อซักถามหรือความคิดเห็น และการแก้ไขเรื่องร้องเรียน
(8) การยืนยันตัวบุคคล กระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (know-your-customer : KYC) และตรวจสอบสถานะลูกค้า (customer due diligence : CDD) การตรวจสอบและคัดกรองอื่น ๆ และการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องที่อาจจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
(9) การป้องกัน ตรวจจับ และสอบสวนการฉ้อโกง การประพฤติมิชอบ หรือกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่ และการวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง
(10) การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ แนวทาง คำสั่ง คำแนะนำ และการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาษีอากร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานอื่น ๆ หรือหน่วยงานกำกับดูแล (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) อาทิเช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกรมสรรพากร
(11) การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทฯ การควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน และการดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและขั้นตอนของบริษัทฯ ที่อาจจำเป็นโดยกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบ การเงินและการบัญชี ระบบต่าง ๆ และความต่อเนื่องทางธุรกิจ
(12) การจัดการหรือการสอบสวนเรื่องร้องเรียน ข้อเรียกร้อง หรือข้อพิพาทใด ๆ
(13) การติดต่อสื่อสารทางการตลาด การให้ข้อมูล ข้อเสนอพิเศษ และเอกสารส่งเสริมการขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทในเครือและบริษัทย่อยของบริษัท และบุคคลภายนอก
(14) การพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ และการให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันแก่ลูกค้า เกี่ยวกับบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นครั้งคราว
(15) การทำวิจัย การวางแผนและการวิเคราะห์ทางสถิติ ตัวอย่างเช่น ในด้านวงเงินลงทุนและพฤติกรรมการลงทุนของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
(16) การจัดโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชุม การสัมมนา
(17) การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัทฯ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การติดตามทวงถามจำนวนเงินใด ๆ ทั้งหมดที่ติดค้างต่อบริษัทฯ
(18) การอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบทางการเงินที่จะดำเนินการโดยผู้สอบบัญชี หรือการรับบริการที่ปรึกษากฎหมายจากที่ปรึกษากฎหมายที่แต่งตั้งโดยลูกค้าหรือโดยบริษัทฯ
(19) การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของเราภายใต้สัญญาใด ๆ ที่เราเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ
ถ้าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ
ลูกค้านิติบุคคล
(1) การติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ เช่น การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ อาทิเช่น การตอบข้อซักถามหรือการร้องขอ
(2) การคัดเลือกลูกค้า เช่น การตรวจสอบตัวตนและสถานะลูกค้า การตรวจสอบสถานะหรือการตรวจสอบประวัติความเป็นมาในรูปแบบอื่น ๆ หรือการระบุความเสี่ยง อีกทั้งการตรวจสอบคัดกรองกับรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด (sanction lists) ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐและ/หรือที่เป็นทางการซึ่งเปิดเผยเป็นการทั่วไป ตามที่กฎหมายกำหนด การประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติลูกค้า
(3) การจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น การดำรงและปรับปรุงรายชื่อ/รายนามลูกค้า รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล การจัดเก็บสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจมีการอ้างถึงเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(4) การวิเคราะห์และปรับปรุงธุรกิจ เช่น การทำวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมิน การสำรวจและการรายงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ และผลการดำเนินงานลูกค้า การพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด และผลิตภัณฑ์และบริการ
(5) การติดตามตรวจสอบความปลอดภัยและระบบ เช่น การยืนยันตัวบุคคล การควบคุมและการบันทึกการเข้าถึงระบบ การติดตามตรวจสอบระบบ อุปกรณ์ และระบบอินเทอร์เน็ต การตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศ การป้องกันและแก้ไขอาชญากรรม ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงและการป้องกันการฉ้อโกง
(6) การจัดการข้อพิพาท เช่น การแก้ไขข้อพิพาท การบังคับสัญญาของบริษัทฯ การกำหนด การใช้หรือการต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(7) การสอบสวนภายใน การสอบสวน การป้องกันการร้องเรียนและ/หรืออาชญากรรมหรือการฉ้อโกง
(8) การปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในองค์กร เช่น การปฏิบัติตามนโยบายภายในองค์กร และกฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่ง และแนวทางของหน่วยงานกำกับดูแลที่มีผลบังคับใช้
(9) การปฏิบัติตามกฎหมายและหน่วยงานของรัฐ เช่น การประสานงาน การปฏิสัมพันธ์และตอบสนองหน่วยงานของรัฐหรือศาล
(10) วัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การแจ้งข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ ซึ่งคาดได้ว่าอาจเป็นที่น่าสนใจต่อลูกค้า กิจกรรมต่าง ๆ การเสนอบริการใหม่ การทำการสำรวจ
(11) การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางธุรกิจที่สมเหตุสมผล เช่น การจัดการ การฝึกอบรม การตรวจสอบ การรายงาน การควบคุม หรือการบริหารความเสี่ยง สถิติ การวิเคราะห์แนวโน้มและการวางแผน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกัน
3. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก ตลอดจนบุคลากรและตัวแทนของบุคคลภายนอก ทั้งภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ โดยสามารถศึกษาทำความเข้าใจในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกเหล่านั้น เพื่อทราบถึงวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้
ลูกค้าบุคคลธรรมดา
(1) กลุ่มบริษัท Phillip Group
เนื่องจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ฟิลลิป จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของ Phillip Group ซึ่งบริษัทฯ อาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังภายในกลุ่มบริษัท Phillip Group (อาทิเช่น Phillip Securities Thailand Ltd.) หรืออนุญาตให้บริษัทอื่นๆ ภายใน Phillip Group นั้นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น
(2) ผู้ให้บริการของบริษัทฯ
บริษัทฯ อาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างเพื่อการให้บริการต่าง ๆ ในนามของบริษัทฯ หรือเพื่อช่วยเหลือในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ลูกค้า บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการเหล่านี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวแทนการวิจัย ผู้ให้บริการการวิเคราะห์ ตัวแทนการสำรวจ ตัวแทนด้านการตลาด สื่อโฆษณาและการติดต่อสื่อสาร ผู้ให้บริการชำระเงิน และ ผู้ให้บริการด้านธุรการและการดำเนินงานในการให้บริการเหล่านี้ ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัทฯ เพียงเท่าที่จำเป็นในการให้บริการโดยผู้ให้บริการเหล่านี้ และบริษัทฯ จะขอให้ผู้ให้บริการเหล่านี้ ไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ทั้งนี้บริษัทฯ จะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่าผู้ให้บริการทุกรายที่ทำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างปลอดภัย
(3) พันธมิตรทางธุรกิจ
บริษัทฯ อาจทำการโอนหรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ แต่ทั้งนี้ผู้รับข้อมูลเหล่านี้ต้องตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยสอดคล้องกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
(4) บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายอนุญาต
ในบางสถานการณ์หรือในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลภายนอก เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติตามหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานรัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ในกรณีที่บริษัทฯ เชื่อว่าการเปิดเผยหรือการโอนนั้นจำเป็นเพื่อที่จะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของบริษัทฯ สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคลหรือบุคคลภายนอกใด ๆ หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการฉ้อโกง หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย
(5) ที่ปรึกษาวิชาชีพ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังที่ปรึกษาวิชาชีพของบริษัทฯที่เกี่ยวกับ บริการด้านการตรวจสอบ กฎหมาย การบัญชี และภาษีอากร ซึ่งช่วยในการประกอบธุรกิจและแก้ต่าง หรือจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางกฎหมาย
ลูกค้านิติบุคคล
บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ากับบุคคลอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในข้อ 3 ข้างต้น ได้แก่ บริษัทในเครือ Phillip Group พันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ ของเรา ผู้ให้บริการบุคคลภายนอกที่เราจ้าง ทั้งนี้ในบางสถานการณ์ เราต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ากับหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ในกรณีที่เชื่อได้ว่าการใช้ข้อมูลนั้นจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคลหรือบุคคลภายนอกใด ๆ ตลอดจน เพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการฉ้อโกง ด้านความมั่นคง ความปลอดภัย
บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมั่นใจถึงการคุ้มครองข้อมูล เมื่อบริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก เช่น ข้อตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก หรือบริษัทในเครือ ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจจะไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย แต่อย่างไรนั้น บริษัทฯ มีการดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
5. ระยะเวลาในการที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตลอดระยะเวลาของสัญญาที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำขึ้นกับบริษัทฯ หรือรักษาในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา ตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และบริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปอีก 10 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญาหรือวันที่ยุติความสัมพันธ์ใดๆกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้ง ภายในระยะเวลาที่เป็นการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจขยายเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้นานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ กรมสรรพากร
6. ข้อมูลที่สำคัญอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามใด ๆ (เช่น คู่สมรสและบุตร ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้รับผลประโยชน์ ผู้รับมอบอำนาจ รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน) กับบริษัทฯ ซึ่งข้อมูลที่ให้เป็น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลเหล่านั้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรมั่นใจว่ามีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้ อีกทั้งต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลที่สามเหล่านั้นทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และขอรับความยินยอมจากบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง หากมีความจำเป็นหรืออาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นๆ
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
7.1 สิทธิในการเข้าถึง: ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผลเกี่ยวกับท่าน
7.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล : ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
7.3 สิทธิในการคัดค้าน: ในบางกรณีท่านอาจมีสิทธิคัดค้านวิธีการที่เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในบางกิจกรรมซึ่งระบุในนโยบายฉบับนี้
7.4 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ประมวลผลเกี่ยวกับท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป
7.5 สิทธิในการจำกัด: ท่านอาจมีสิทธิจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง หรือการประมวลผลของบริษัทฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเราไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป
7.6 สิทธิในการแก้ไขให้ถูกต้อง: ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
7.7 สิทธิในการถอนความยินยอม: ท่านอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
7.8 สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน: ท่านอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่บริษัทฯทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นสามารถดำเนินการใดๆตามสิทธิดังข้างต้น ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่าน ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยใดๆในสิทธิต่างๆ โดยติดต่อบริษัทฯ ได้ที่อีเมล pamc.cu@phillip.co.th
บริษัทฯ จะดำเนินการพิจารณาคำร้องขอภายใน 30 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอดังกล่าว โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตามคำขอโดยไม่มีค่าธรรมเนียม แต่อย่างไรนั้น บริษัทฯ อาจได้รับอนุญาตให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม หากคำขอการดำเนินการเรื่องข้อมูลนั้นซ้ำซ้อนหรือไม่มีมูลหรือเกินจริง นอกนี้ยังอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมเพื่อปฏิบัติตามคำร้องขอให้ดำเนินการเรื่องข้อมูลสำหรับสำเนาของข้อมูลเดียวกันเพิ่มเติม ค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายในการจัดการของการให้ข้อมูลบริษัทฯ ไม่มีค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายสำหรับคำขอนี้ เว้นแต่ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ได้ร้องขอข้อมูลเดียวกันในหลายครั้งหรือทำการร้องขออย่างไม่สมเหตุสมผลหรือเกินสมควร ทั้งนี้บริษัทฯ อาจปฏิเสธคำร้องขอ หากเป็นกรณีที่เป็นไปตามข้อยกเว้นของกฎหมาย หรือคำสั่งศาล
8. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้
“คุกกี้” คือข้อมูลขนาดเล็กที่ จะถูกส่งไปยังเว็บเบราว์เซอร์ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยเว็บเบราว์เซอร์จะจัดเก็บข้อมูลและส่งกลับมายังเว็บไซต์ของบริษัทฯในครั้งต่อไปที่ท่านเข้าชมเว็บไซต์บริษัทฯอีก ซึ่งเป็นการช่วยจดจำเบราว์เซอร์ของท่าน รวมถึงการเข้าใช้งานและการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ นอกจากนี้อาจช่วยในการรวบรวมข้อมูลสติการใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ และบริษัทฯสามารถนำสถิติการใช้งานเหล่านั้น มาพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ท่านสามารถลบและปฏิเสธการใช้งานคุกกี้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน ทั้งนี้อาจส่งผลให้คุณสมบัติการใช้งานบางอย่างของเว็บไซต์บริษัทฯ อาจทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
9. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น
เพื่อความสะดวกของการใช้บริการบนเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชันของบริษัทฯนั้น อาจมีลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ซึ่งอาจมีนโยบายที่แตกต่างกัน บริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้บริการทุกท่านตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ประกาศไว้บนเว็บไซต์เหล่านั้นเพื่อดูรายละเอียด และบริษัทฯ จะไม่รับประกันหรือสนับสนุนข้อมูลใดๆ รวมทั้งนโยบายที่ผู้ใช้บริการได้รับจากเว็บไซต์อื่นที่นอกเหนือจากของบริษัทฯ เอง
10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวน เปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จะประกาศผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้บริการหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นี้อย่างละเอียดและทบทวนเป็นระยะๆเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบทางอีเมลหรือระหว่างการเข้าสู่ระบบและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอีกครั้งหากได้ทำการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่สำคัญหรือมีนัยสำคัญต่อนโยบายฉบับนี้หรือจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย
11. ช่องทางการติดต่อเรา
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิใดๆที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อสงสัยซักถาม ตลอดจน เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้นโยบายฉบับนี้ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ที่
11.1 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ฟิลลิป จำกัด
สถานที่ติดต่อ: ชั้น 22 อาคารวรวัฒน์ 849 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
11.2 ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center)
หมายเลขโทรศัพท์: 02 – 635-3033 #827
02 – 635-3033 #836
11.3 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
– นายวีรพงษ์ โรจน์คงทรัพย์
– นายธนชัย วิภาวีนุกูล
E-mail: Pamc.DPO@phillip.co.th